Friday, October 12, 2007

สรุป

สรุปสิ่งที่ได้จากวิชานี้ คือ ความรู้ในเรื่องของการใช้ความคิดจากเมื่อก่อนที่ทำงานโดยคิดเพียงเปลือกไม่ได้คำนึงถึงแก่นของชิ้นงาน การทำแบบผิวเผือน จากวิชานี้ทำให้ได้รู้การคิดที่จะทำให้รูว่าการคิดให้มากให้ลึก ทำความเข้าใจกับมันเยอะๆจะส่งผลดีกับการทำงาน และงานที่อาจารย์นำมาให้ดูก็ให้ความรู้ในทางด้านการคิดมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นงานหนังเรื่อง babal ซึ่งทำให้ได้คิดอะไรหลายอย่างจากโปสเตอร์เรื่องนี้ นำมาวิเคราะห์ และได้รู้ไปถึงประวัติความเป็นมาของชื่อเรื่อง
และเรื่องของมายาคติ ซึ่งเรื่องนี้จะว่าด้วยความคิดความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่นักออกแบบได้คิดว่าเขาต้องการสื่อสารอะไรออกมา ได้เรียนเรื่องนี้ตอนแรกก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงจะต้องเรียน แต่เมื่อได้อ่านก็พอที่จะเข้าใจ เรื่องนี้มีเรื่องที่ชอบอยู่หนึ่งเรื่องคือเรื่องของการตลาด ที่เป็นโฆษณาโอโม่ ได้เข้าใจว่าเขามีความคิดทางการตลาดอย่างไร การทำโฆษณาชวนเชื่อ ชักจูงของเขามีวิธีการทำอย่างไร

อนาคต

สิ่งที่อยากจะทำในอนาคต
เมื่อสมัยตอนเรียนอยู่มัธยมมีความใฝ่ฝันอยากจะเรียนคณะศิลปกรรมศาสตร์มาก เป็นคณะที่ชอบ ได้วาดรูประบายสีไม่ต้องเรียนคณิต แต่พอได้มาเรียนเข้าจริงๆแล้วก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดไว้ยากกว่าที่คิดไว้เยอะ ในตอนแรกที่เรียนก็คิดว่าจบไปแล้วจะเป็นนักออกแบบด้านภาพประกอบ เพราะชอบงานด้านนี้มากที่สุดตั้งแต่เรียนมา ชอบที่จะวาดรูปตัวการ์ตูน แต่พอยิ่งเรียนก็ยิ่งยากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มรู้สึกว่าไม่ได้เป็นอย่างที่ตัวเองคิดไว้เลย แล้วพอมาดูความสามารถของตัวเองและเพื่อนคนอื่นๆ ก็รู้ว่าตัวเองไม่ค่อยเหมาะกับอาชีพนักออกแบบเท่าไหรั่ก ถ้าจบไปจึงคิดว่าจะรับงานอิสระก่อนในช่วงแรกเพื่อจะได้ทำ portfolioไปในตัว เพราะตอนนี้ก็มีรับงานออกแบบwebsite อยู่บ้างซึ่งมีพี่คอยแนะนำลูกค้ามาให้อีกที และทางบ้านข้าพเจ้าก็มีบริษัทเกี่ยวกับบัญชีและกฎหมาย ก็จะมีลูกค้ามาจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ซึ่งทางลูกค้าที่มาใช้บริการส่วนใหญ่จะยังไม่มี logoเป็นของตัวเอง เขาก็จะมาจ้างให้ออกแบบ logoให้ หลังจากเรียนจบไปอาจจะรับงานพวกนี้ไปก่อนเพื่อจะได้รวบรวมport และพัฒนางานไปด้วย ไม่อยากจะไปทำงานด้านอื่นเพราะไม่อยากทิ้งวิชาที่เรียนมาถึง4ปี

ความเป็นไปได้ ที่จะเป็นไปตามที่วางแผนไว้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวเองว่างานที่นำเสนอและที่แสดงความเป็นตัวตนของเรานั้น จะเป็นที่ถูกใจกับผู้ที่จะรับเราเข้าร่วมงานหรือไม่ก็น่าจะขึ้นอยู่กับความคิดและประสบการณ์ของเราด้วยว่าจะมีมากน้อยเพียงใด

จินตนาการ

จินตนาการ ก็คือ การสร้างภาพขึ้นในจิตใจ ภาพที่ถูกสร้างขึ้นในจิตใจนั้น มีบทบาทอย่างมากต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ ที่เน้นว่า มนุษย์ เพราะผู้เขียนยังไม่ได้เข้าไปศึกษาถึงการดำเนินชีวิตของสิ่งที่มีชีวิตอื่น ๆ โดยภาพที่มนุษย์ได้สร้างขึ้นในจิตใจนั้นมีความแตกต่าง หลากหลาย ไปตามความเข้าใจ และมองเห็นได้ของแต่ละคน ผู้เขียนเองมี ประสบการณ์ ความเข้าใจ และ มองเห็นภาพในจิตใจของตัวเองเป็นการเฉพาะ ที่จะขอนำเสนอให้ท่านผู้อ่านได้มองตามไปบ้าง จะเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยอย่างไรนั้น ขอให้อยู่ในดุลพินิจของผู้อ่านทุกท่านเอง

จินตนาการที่เคยประสบกับตัวเอง ในคืนที่เงียบสงัดเวลาประมาณตี2 ในห้องที่มืดมิด ข้างนอกหน้าต่างมีลมพัดไหวๆ ลมหนาวที่เล็ดลอดเข้ามาทางช่องเล็กๆทำให้ชวนขนลุก ในห้องที่เงียบและเย็น ข้าพเจ้ามักจะได้ยินเสียงแปลกๆ เป็นเสียงผู้ชายที่เหมือนจะกระซิบคุยอยู่บ่อยครั้ง

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น่าจะเป็นจินตนาการในส่วนลึกจิตใต้สำนึกที่ว่า ถ้ามืดและเงียบบรรยายกาศวังเวง ก็จะเกิดอาการหลอนตัวเองโดยคิดไปว่ามีสิ่งลึกลับอยู่รอบๆตัว อยากจะสืบเนื่องมาจากการที่ได้ดูหนังสยองขวัญจนเก็บมาคิดและจินตนาการเป็นเรื่องราวตามที่ตนเองอยากจะให้เป็นและเกิดขึ้นไปตามสมองสั่งการ